จี้ทอง มีสัญลักษณ์ความเชื่อ มีความหมายที่แตกต่าง เช่นจี้ทองหลวงปู่ทวด จะนำความคุ้มครอง ปงป้อง แคล้วคลาด ปัดเป่าจากอันตรายภัยร้ายต่างๆทั้งปวง บางคนก็ใส่จี้ทองคำรูปหัวใจเพื่อเสริมดวงเรื่องความรักให้สมหวัง ให้เจอกันรักที่ดีหรือมอบจี้ทองรูปหัวใจแทนสื่อแห่งความรักให้กับคนที่เรารักที่สุด ส่วนจี้ทองคำน้ำเต้าช่วยเสริมดวง โชคลาภ ให้ทำมาค้าขายจะดีมาก ค้าขายร่ำรวย กิจการการค้ารุ่งเรือง เรียกเงินเรียกทองให้กับผู้ที่สวมใส่ และนำโชคลาภมาสู่ผู้ที่เป็นเจ้าของให้สวมใส่ติดกายไว้ตลอดเวลา ทำให้โชคดี เจรจาเป็นผลสำเร็จ สร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเอง สร้างพลังบวกให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของ เป็นต้น จะเห็นได้ว่าจี้ทองมีจุดเด่นและความหมายที่แตกต่างกันเกี่ยวกับจี้ทอง
จี้ทอง มีหลายแบบ มีหลากหลายเปอร์เซ็นต์ทองคำ แล้วแต่เราจะเลือกซื้อทองคำกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ปัจจุบันส่วนมากนิยมทำเปอร์เซนต์ทองอยู่ 3 แบบ คือทองคำ99.99%,96.5% และทองคำ90% ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันจึงได้รับความนิยมมาสวมใส่กับสร้อยคอเป็นอย่างมาก เพื่อเสริมดวงโชคชะตาต่างๆให้กับผู้ที่สวมใส่ตามความเชื่อต่างๆนานา ความเชื่อส่วนบุคคลเกี่ยวกับจี้ทอง
จี้เป็นเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน
มีผู้ใช้จริงเยอะมาก งานฝีมือประณีต ทองคำแท้
ผลิตโดยช่างทองเยาวราชมืออาชีพตัวจริงประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี
สินค้ามีหลากหลายรูปแบบให้เลือก เป็นทองแท้สามารถขายได้จำนำได้ทั่วประเทศไทยทองคำแท้มาตรฐานจากเยาวราช น้ำหนักเต็มทุกชิ้น
ไม่มีอะไรต้องลังเล ใส่แล้วรู้สึกมั่นใจใช้ได้ทุกงานทั้งในพิธีแต่งหรือพิธีมงคลต่างๆ ออกสื่อได้ทุกงานไม่ต้องอายใคร คุ้มค่ากับราคาที่ซื้อแน่นอน สินค้ามีใบรับประกันทุกชิ้น
จี้แต่ละแบบมีความหมายของมีดังนี้
1. “จี้หัวใจ”
เสริมดวงในเรื่องความรัก ให้ความรักมั่นคง อบอุ่น หรือเป็นสื่อสัญลักษณ์แทนความรัก ความห่วงใย เหมาะกับมอบให้เป็นของขวํญให้คนที่เรารัก
2.”จี้ดอกไม้”
เสริมดวงให้มีความเจริญรุ่งเรือง ดูดีสง่างามเหมือนดอกไม้ที่บานอย่างสวยงาม ปัจจุบันดอกไม้เป็นเครื่องหมายแทนความสัญลักษณ์ความยินดี ดอกไม้ใครใส่กับสร้อยคอก็สวยไปหมด เป็นเครื่องประดับที่เหมาะสมกับทุกวัย ดอกไม้มีความอ่อนหวาน โรแมนติกและได้รับความนิยมมนการใส่ที่ทันสมัย
3.”จี้น้ำเต้า”
จี้ทอง”น้ำเต้า”เครื่องประดับมงคล จี้น้ำเต้าดูดทรัพย์ เงินทองให้ไหลมาเทมา
น้ำเต้า ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการเสริมส่งสุขภาพให้แข็งแรง อายุยืนยาว เป็นการกระตุ้นเปิดรับโชคลาภ ดูดทรัพย์สินเงินทองให้ไหลมาเทมา
นิยมห้อยน้ำเต้าไว้ในบ้าน ในรถ หรือร้านค้า เพื่อดึงดูดทรัพย์ ดูเผินๆ น้ำเต้าจะมีลักษณะคล้ายเลข 8 เป็นเลขมงคล
หมายถึง เงินทองไหลมาเทมาไม่รู้จบ ชาวจีนเชื่อว่า ปากของน้ำเต้าจะดูดซึมซับพลังงานด้านลบมาเก็บไว้ และส่วนล่างสุดของลูกน้ำเต้า หากใครเจ็บป่วยก็ให้แขวนน้ำเต้า เหมือนมีน้ำเต้าคอยดูดซับความเจ็บป่วยให้มาอยู่ในลูกน้ำเต้า
แก้เคล็ดทางฮวงจุ้ยจากการทะเลาะเบาะแว้งของสามีภรรยา หากอยากให้ความรักของคุณดียิ่งขึ้น ก็ให้นำน้ำเต้าไปห้อยไว้ที่หัวเตียง จะทำให้สัมพันธภาพกลับมาดีขึ้นได้
4.”จี้ปี่เซียะลงยา”
ปี่เซียะ , ผีซิ่ว และ เผ่เย้า ทั้งสามคำนี้เป็นคำๆเดียวกัน แต่ออกเสียงต่างกันไปตามลักษณะท้องถิ่นของจีน
ปี่เซียะ เป็นยอดเครื่องรางที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้พญามังกร และมีพลังแรงกว่าสิงโตคู่ ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์ของจีนที่ได้รับความนิยมทั้งในเมืองไทยและในประเทศต่างๆ มากที่สุดในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน เกาะฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพราะใครมีไว้บูชาจะทำให้มีแต่โชคลาภ ทรัพย์มีแต่เข้าไม่มีออก ขณะเดียวกันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยขจัดอาถรรพณ์ ภูตผีปีศาจ และป้องกันสิ่งชั่วร้าย เมื่อไม่มีรูทวารจึงกินอย่างเดียว ไม่มีถ่ายออก เป็นเคล็ดลับวิชาหมายถึง เงินเข้าแล้วไม่มีออก ทรัพย์จึงเพิ่มพูนสถานเดียว
ปี่เซียะ เป็นสัตว์เทพมงคลที่มีลักษณะครบตามหลักเบญจธาตุ คือ มีสี่เท้าของสิงโตอันทรงพลัง มีเขาและลำตัวเป็นกวางอันอ่อนช้อย มีปีกของพญานกอันแข็งแกร่ง มีส่วนศีรษะของมังกรอันทรงพลัง มีหางแมวอันศักดิ์สิทธิ์ และไม่มีรูทวารหนักและเบา จึงมีอานุภาพในการรับโชคลาภอย่างไม่รั่วไหล และแม่นยำ
ปี่เซียะ มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่เมืองเฉินตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน สังเกตได้บนพระราชวังของจักรพรรดิจีน หน้าวัดเส้าหลิน หน้าธนาคารในกรุงปักกิ่ง บนหลังคาสถาปัตยกรรมที่สำคัญๆ ของจีน หรือหน้าบอนกาสิโนในมาเก๊าและฮ่องกง นับถือกันว่าเป็นสัตว์ในเทพนิยายชั้นสูง ปี่เซี่ยมีมาตั้งสมัยโบราณนานเกินกว่า 5,000 ปีแล้ว
ปี่เซียะขนาดใหญ่ในเมืองไทย มีอยู่ที่วิหารเซียน อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี แกะจากหินแกรนิตขนาดใหญ่ ฝีมือช่างเมืองซัวเถา สาธารณรัฐประชาชนจีน
สมญานามของปี่เซียะ มีหลากหลายดังนี้
จีนแผ่นดินใหญ่เรียกว่า ตัวดูดเงิน
ฮ่องกงเรียกว่า ตัวรับโชค
ไต้หวันเรียกว่า ตัวเฮง…เฮง
5.”จี้ปลาโลมา”
โลมาคู่ เป็นสัญลักษณ์ของคู่รัก
ปลาโลมา เป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความโชคดี ความสำเร็จและความอุดมสมบูรณ์ จึงได้รับความนิยมให้ใส่กันเป็นคู่เพื่อให้เกิดความรักกันและกัน และการช่วยเหลือ ความปลอดภับ อ่อนโยน นำมาใช้ในหลายศาสตร์ เช่น การตกแต่งบ้าน ปลาโลมา คือ สัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหว ความมีชีวิตชีวา มีเหลือกินเหลือใช้ ไม่ขาด ความโชคดี ความรัก ความอุดมสมบูรณ์และความสำเร็จ ปลาโลมา เป็นสิ่งมงคล ที่เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นพลังมงคลด้านความรัก โชคลาภ การค้าขายเจริญรุ่งเรือง การมีมากมายล้นเหลือ ได้กำไร ได้ประโยชน์ มาสู่คุณได้อย่างที่คุณไม่คาดคิดเลยทีเดียว การพกโลมาติดตัว เชื่อว่าจะนำพาความรักที่สมบูรณ์ ความรักที่บริสุทธิ์ หากมีโลมาติดตัว มักจะโชคดีในเรื่องของความรัก จึงเชื่อกันว่า ปลาโลมาคู่ เป็นลัญลักษณ์ของ คู่รัก เพราะปลาโลมาจะรักกันจนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายจากกันไป ซึ่งหมายถึง “รัก ชั่วนิรันดร์”
6.”จี้เต่า”
เนื่องจากเต่าเป็นสัตว์มงคลที่มีความเกี่ยวพันกับเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงมีการนำรูปปั้นเต่ามาใช้เพื่อส่งเสริมความเป็นมงคลให้กับชีวิต และเพื่อหลีกเลี่ยงเคราะห์ภัยต่างๆ จึงนับได้ว่ารูปปั้นเต่าเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งสำหรับฮวงจุ้ย เต่าเป็นสัตว์ที่อายุยืน ดังนั้นการวางรูปปั้นเต่าไว้ในบ้านจึงช่วยส่งเสริมให้คนสูงอายุในบ้านมีอายุยืน คนเจ็บคนไข้หายเจ็บป่วย คนหนุ่มคนสาวจะมีโชคมีลาภ และเด็กเล็กเจริญเติบโต ในขณะเดียวกันยังสามารถใช้เต่าเพื่อสลายพลังปราณชี่พิฆาตได้ด้วย โดยการตั้งเต่าให้หันหน้าไปยังทิศที่มีปราณชี่พิฆาตต่างๆ
เต่ามังกรเป็นเครื่องรางของขลังอีกชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจ และได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลก ด้วยเทวลักษณ์ผสมผสานสัตว์เทพหรือสัตว์มงคลเข้าด้วยกัน ส่วนหัวเป็นมังกร, เขาและหางเป็นกิเลน, ซึ่งมีความหมายทางอำนาจวาสนาบารมี, ตำแหน่งหน้าที่การงานที่อยู่เหนือผู้คนจำนวนมาก, การไต่เต้าจากต่ำไปสู่สูงกว่าและดีกว่า, ความมั่นคงที่ไม่มีใครมาโยกคลอนได้
ส่วนตัวเป็นเต่า มีความหมายถึงสุขภาพที่สมบูรณ์, อายุขัยที่ยืนยาว เมื่อนำส่วนที่เป็นมงคลมารวมกันเป็นเต่ามังกร(เจี่ยบ๊วย) นั่นก็หมายถึงพลานุภาพทางด้านการงานการเงิน ตำแหน่งหน้าที่การงานที่มั่นคงและมั่งคั่ง
เป็นยังไงบ้างคะ สำหรับความรู้เกี่ยวกับสำหรับข้อมูลและความรู้ที่นำมาฝากกัน หลายคนคงได้ความรู้กันไปไม่น้อย หวังว่าทุกคนจะได้เลือกซื้อจี้ทองได้ถูกต้องและเหมาะสมกันนะคะ